เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการรับฟังปัญหาหนี้ของข้าราชการพบว่า การหักเงินเดือนและการชำระหนี้ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของระบบสินเชื่อสวัสดิการ ทำให้ข้าราชการมีเงินเดือนไม่ถึง 30% ดังนั้น คณะกรรมการชุดนี้จึงพิจารณาร่วมกันว่าจะทำให้ข้าราชการมีเงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30% ของเงินเดือน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขหนี้สินข้าราชการ จะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สามารถให้ข้าราชการปลดหนี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าบางรายไม่สามารถทำให้เงินเหลือมากกว่า 30% ของเงินเดือนได้ จะใช้วิธีการขยายงวดชำระเงินต้นออกไปให้อายุถึง 75 ปี จะส่งผลให้เงินต้นลดลงโดยอัตโนมัติ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะหาเงินกู้พิเศษจากสหกรณ์ออมทรัพย์ของตัวเองในอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม และหากสมมติว่ายังเหลือเงินไม่ถึง 30% อีก ซึ่งเชื่อว่าจะเหลือแค่บางรายเท่านั้น เราจะนำมาวิเคราะห์และแก้ไขเฉพาะราย เพื่อให้เกิดการปลดหนี้ให้มีสภาพชีวิตที่อยู่ด้วย โดยจะเดินหน้าและเกิดผลสัมฤทธิ์ในเดือน ม.ค.67 เป็นต้นไป แต่ต้องขอความร่วมมือจากกรมบัญชีกลาง และต้นสังกัดของข้าราชการ
ด้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย กล่าวถึงภาพรวมหนี้ของข้าราชการทั้งระบบว่า ข้าราชการที่อยู่ในระบบเงินกู้สหกรณ์มียอดรวมทั้งสิ้น 3 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่กระทรวงศึกษาธิการประมาณ 8 แสนคน กระทรวงสาธารณสุข 2 แสนกว่าคน ตำรวจ 2.3 แสนคน สำหรับแนวทางการแก้ไขหนี้สินของข้าราชการนั้น เราจะดูแลข้าราชการในระบบสวัสดิการและรัฐบาลจะดูแลเรื่องการหักเงินเดือนให้ทุกหน่วย
เมื่อถามถึงการแก้ไขหนี้บัตรเครดิตที่มีเก็บดอกเบี้ย 18% ต่อปี ขณะที่นายกรัฐมนตรีระบุในการแถลงข่าวแก้หนี้นอกระบบให้เก็บดอกเบี้ยในอัตราที่ไม่เกิน 15% ต่อปี ทางคณะกรรมการฯ จะมีแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างไร นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า เรื่องบัตรเครดิตอัตราดอกเบี้ยตามข้อตกลงเดิมบวกกับเบี้ยปรับในรายการผิดชำระ ตรงนี้มีการอ้างอิงประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ทำได้ไม่เกินร้อยละ 3
นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อว่า ฉะนั้น การประชุมแก้ไขหนี้ในส่วนที่เหลือจะมีแนวทาง ตอนนี้ขอพิจารณาให้รอบคอบเพื่อให้พร้อมที่จะเสนอนายกฯ เพื่อแถลงในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เมื่อถามย้ำว่ามีแนวโน้มที่จะเก็บดอกเบี้ยบัตรเครดิต 15% หรือไม่ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ก็มีแนวโน้ม