วันที่ 14 ม.ค.67 ภายหลังจากที่นายศิริพันธ์ ศรีกองพลี รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ให้แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากพบว่ามีการระบาดเพิ่มขึ้นหลังช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะไวรัสโควิดสายพัน JN.1 ซึ่งมีความรุนแรง และแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น รวมทั้งกำลังเป็นสายพันธุ์หลักที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้นั้น
ล่าสุด นพ.วิญญู จันทร์เนตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ภายใต้การบริหารของ นพ.สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ ได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำกับติดตามเฝ้าระวังผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 มาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเปลี่ยนมาเป็นโรคประจำถิ่น แต่ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคอยู่
จากการรายงานล่าสุด พบผู้ป่วยรายใหม่ในรอบสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 6-12 มกราคม 2567 จำนวน 643 คน หรือเฉลี่ยวันละ 91 คน ซึ่งในจำนวนนี้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 53 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 12 มกราคม 2567
ทั้งนี้มียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 33,966 คน เสียชีวิตสะสม 76 ราย ซึ่งในจำนวนผู้ป่วยสะสม ได้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 1,511 คน โดยรักษาหายแล้ว 1,395 คน ยังเหลือที่ต้องยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล อีก 46 คน
อย่างไรก็ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอยู่ในเกณฑ์รุนแรงน้อย มีบุคลากรดูแล มีเตียงไว้รองรับผู้ป่วยเพียงพอ ปัจจุบันจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด 19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล มีอยู่ 1,081 เตียง มีผู้ป่วยอาการรุนแรง ระดับสีแดง ครองเตียงอยู่ 26 เตียง
ในขณะที่ยาต้านไวรัสแต่ละชนิด และ Long Acting Antibody มีในสต็อกเพียงพอ ซึ่งมาตรการป้องกัน เฝ้าระวัง ควบคุมการระบาดของโรค ยังต้องใช้มาตรการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับกลุ่มเสี่ยง สามารถฉีดควบคู่กับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้เลย
ส่วนประชาชนทั่วไป ควรป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ รักษาระยะห่าง ตรวจ ATK ด้วยตนเองเมื่อมีอาการ และสถานประกอบการยังคงต้องใช้มาตรการCOVID Free Setting
นอกจากนี้ต้องเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในกลุ่มประชากรพิเศษ เช่น แรงงานต่างด้าว เรือนจำ โรงเรียน และเตรียมพร้อมมาตรการรักษาพยาบาลให้เพียงพอตามมาตรฐาน พัฒนาระบบการเข้าถึงยารักษาโควิด 19 ของประชาชน
ส่วนกรณีสายพันธุ์ที่กรมควบคุมโรคตรวจพบขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ JN.1 ซึ่งเป็นเชื้อที่กลายพันธุ์มาจากโอมิครอน ซึ่งเป็นเชื้อที่แพร่ระบาดแล้วทำให้ติดต่อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์เดิม แต่ทำให้มีอาการรุนแรงน้อย ยังสามารถมาตรการป้องกันแบบเดิมได้อยู่
จากการสุ่มตรวจเชื้อของผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือมีอาการผิดปกติแต่ละราย ก็ยังไม่พบสายพันธุ์ JN.1 ในพื้นที่ และตอนนี้แนวโน้มการแพร่ระบาดยังทรงตัว อาการป่วยรุนแรงน้อยลง
อย่างไรก็ตามกลุ่มเสี่ยง 608 จำเป็นต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ผู้ดูแลต้องพากลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีนป้องกัน ส่วนประชาชนทั่วไปก็ควรร่วมด้วยช่วยกัน โดยการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกัน ก็จะช่วยไม่ให้เชื้อโรคแพร่ระบาดได้