![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhJi6k3JxhcOk62PZEk1ggJ3BLBZwg4hhr_93uiaA81THNR4eMxE8GSrMO2hIFho968XHE5VL8CeGMfbfjsblxa5CH4M0VsLuLA6DX5DcYSj5VHJdQXvbqE8b39jLCpifGtDpAtv8YMF2K1cjNrDS8CywQwymWAjnLP2q24HIs1nKTa1cqZnuX3kP0KB-tx/s1600/2SVE-GGZGY-MENYAJZ-IUSQ.jpeg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhJi6k3JxhcOk62PZEk1ggJ3BLBZwg4hhr_93uiaA81THNR4eMxE8GSrMO2hIFho968XHE5VL8CeGMfbfjsblxa5CH4M0VsLuLA6DX5DcYSj5VHJdQXvbqE8b39jLCpifGtDpAtv8YMF2K1cjNrDS8CywQwymWAjnLP2q24HIs1nKTa1cqZnuX3kP0KB-tx/s1600/2SVE-GGZGY-MENYAJZ-IUSQ.jpeg)
วันที่ 2 ธันวาคม 2566 ธ.ก.ส. โอนเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาท ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้มีรายได้และสภาพคล่องในการใช้จ่าย รวมถึงการพัฒนาคุณภาพ ผลผลิตข้าวให้สามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้นผ่านโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกร ผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67
สำหรับ จังหวัดที่ได้รับเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ในวันที่ 2 ธ.ค. 66 คือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ภาคตะวันออก จำนวน 5 จังหวัด วงเงิน 9,282 ล้านบาท รวม 8.20 แสนครัวเรือน ได้แก่ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ
เกษตรกร ที่มีสิทธิ สามารถตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกร จากการขึ้นทะเบียนกรมส่งเสริมการเกษตร ปี 2566 ที่นี่https://efarmer.doae.go.th/login